
ความเชื่อเรื่องฟันถ้าเราอายุมากขึ้น
พอแก่ตัวไปฟันจะร่วง
ถอนฟันไปเหอะตอนนี้ไม่ต้องเก็บหรือรักษา เดี๋ยวพอแก่ก็ต้องใส่ฟันอยู่ดี

ไม่จริงนะครับ!!!!!
อยากจะบอกว่า การที่เราแก่ตัวไปแล้วฟันโยก ฟันร่วง สิ่งเหล่านี้คือ เกิดจากโรค รำมะนาด หรือ ปริทันต์อักเสบ แล้วคำว่า “โรค” ย่อมรักษาและป้องกันได้ครับ
ดังนั้น ที่คนเชื่อว่าแก่ตัวไปฟันจะโยกหรือหลุด นี้เป็นความเชื่อที่ผิดนะครับ
ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า โรครำมะนาดหรือปริทันต์อักเสบ เป็นโรคที่เกิดจากแบคทีเรียที่อยู่กับแผ่นคราบจุลินทรีย์ และเกิดสะสมเป็นหินปูน และพอหินปูนเยอะขึ้นไม่ได้ทำความสะอาดออก ก็จะค่อยลงไปใต้เหงือกมากขึ้น จนแบคทีเรียปล่อยสารพิษมาทำลายเหงือกและกระดูกรอบๆรากฟัน เมื่อฟันไม่มีกระดูกคอยยึด เหมือนต้นไม้ไม่มีดิน ฟันก็จะโยก เหงือกบวม มีกลิ่นปาก
หากใครที่มีปัจจัยเสริมอื่นๆ เช่น คนไข้เบาหวาน พันธุกรรม สูบบุหรี่ หรือ คนไข้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นต้น ก็จะทำให้โรคลุกลามมากขึ้น ทำให้ฟันโยกและต้องถอนในที่สุด

อาการที่จะเแสดงให้เห็นนั้น

1. มีกลิ่นปาก แบบรุนแรง ขนาดหายใจทางปากยังมีกลิ่น
2 เหงือกบวม มีสีม่วงคล้ำ หรือแดงสด.. ลองยิ้มหน้ากระจกดู ถ้าเหงือกไม่บวม มีสีชมพู แบบนี้ปกติครับ
3. มีเลือดออก เวลาแปรงฟัน เอะอะก็มีเลือดแม้จะแค่แตะๆไม่ได้โดนแรงๆ
4. เคี้ยวอาหารและมีอาการปวดฟัน อาจจะเกิดจากฟันโยก กระดูกรอบๆฟันโดนทำลายจากแบคทีเรีย ที่อยู่ในหินปูนลึกๆใต้เหงือก
5. ฟันโยกจนต้องถอน และโยกตามมาเรื่อยๆ จนน่าสงสัยว่า ทำไมมันโยกเหมือนโดมิโน…..รักษาได้ครับอย่าปล่อย
6. มีอาการเสียวฟัน
ต้องดูข้อที่ 1-5 เป็นองค์ประกอบร่วมครับลองสังเกตดูนะครับ


หากคุณมีอาการดังกล่าวและไม่ได้รับการรักษาจะทำให้เกิดหนอง ปวดเหงือก สุดท้ายต้องถอนฟัน
รักษาได้นะครับด้วยการกำจัดหินปูนใต้เหงือกออกไปเรียกว่า เกลารากฟัน และควบคุมไม่ให้เกิดขึ้นใหม่ โดยการแปรงฟันให้สะอาด
ส่วนการป้องกัน คือ หมั่นไปตรวจฟันอย่างสม่ำเสมอ 1-2 ครั้งต่อปีครับและทำความสะอาดฟันอย่างถูกวิธี นะครับ
ดังนั้น เราจะแก่แบบมีฟันอยู่ครบได้ครับ …. และทุกๆคนมีฟันดีได้เหมือนๆกัน