
แตกต่างกับแปรงธรรมดาอย่างไร?
เพราะบริเวณผิวฟันของเราจะมีประจุไฟฟ้าแบบลบ และแผ่นครบจุลินทรีย์หรือคราบพลัคที่เป็นกลุ่มของแบคทีเรียที่ติดบนผิวฟันของเรานั้นมีประจุบวก แปรงชนิดนี้จะเปลี่ยนผิวฟันให้มีประจุบวกชั่วคราว ตามหลักการของประจุไฟฟ้า ถ้าขั้วเดียวกันจะผลักกัน ถ้าต่างขั้วกันจะดึงดูดกัน การที่เราแปรงแบบปล่อยประจุบวกทำให้ทำให้คราบจุลินทรีย์ หลุดออกไปด้วย ประจุบวกของแปรงสีฟันชนิดนี้จะปล่อยออกมาได้ขณะแปรง
หลักการทำงาน
แปรงสีฟันแบบปล่อยประจุ จะมีไททาเนียมแบตเตอรี่อยู่ที่ด้ามจับของแปรง แบตเตอรี่ตัวนี้จะต่อกับแท่งไททาเนียมเล็กๆที่เชื่อมต่อกัน ก่อนแปรงเราต้องทำให้นิ้วเปียกและแตะบริเวณด้ามจับที่เป็นโลหะ จะให้เกิดเป็นระบบปิดเมื่อเราแปรงฟัน ประจุไฟฟ้าจะส่งผ่านไปที่ผิวฟัน ทำให้แผ่นคราบจุลินทรีย์หลุดออกมาได้จาการทำงานของประจุไฟฟ้าและการทำความสะอาดเชิงกล
จากงานวิจัยพบว่าแปรงสีฟันแบบปล่อยประจุสามารถลดแผ่นคราบจุลินทรีย์และลดการเกิดเหงือกอักเสบได้ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับแปรงแบบธรรมดายังต้องอาศัยงานวิจัยเพิ่มเติม เพราะยังมีงานวิจัยบางฉบับพบว่า แปรงสีฟันแบบปล่อยประจุสามารถทำลายแบคทีเรียบนผิวฟันได้จริง แต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับแปรงธรรมดาปรากฎว่าไม่ต่างกัน
ข้อดีของแปรงสีฟันแบบปล่อยประจุ
มีความแปลกใหม่ ทำให้การแปรงฟันสนุกขึ้น แปรงแล้วรู้สึกฟันลื่นขึ้น สะอาดขึ้น
ข้อจำกัด
แปรงชนิดนี้บางยี่ห้อแนะนำว่า แปรงโดยไม่ต้องใช้ยาสีฟัน แต่จะให้ดีควรใช้ร่วมกับยาสีฟันผสมฟลูออไรค์ด้วย เพื่อช่วยให้ผิวฟันแข็งแรง ป้องกันฟันผุ

อีกทั้งด้วยราคาแพง และหัวแปรงจะใหญ่กว่าปกติทำให้แปรงด้านในไม่ทั่วถึงได้
อย่าลืมว่า ถึงแม้จะเป็นแปรงสีฟันแบบปล่อยประจุไฟฟ้า ก็ควรเปลี่ยนหัวแปรงทุกๆ 3-4 เดือนนะครับ